วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เสียงเตือนจากคนในสภาปฏิรูป ครั้งที่2

เมื่อความเชื่อมั่น
ในกระบวนการ ยุติธรรม
ของภาครัฐ ไม่เหลือศรัทธา
ในใจประชาชน

      การบุกจับพระ การละเลย
ขั้นตอนที่ควรจะเป็น
ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(DSI) เป็นการทำลายศรัทธาของ
ประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม
ของภาครัฐลงอย่างสิ้นเชิง
ขั้นตอนที่ละเลยไปนั้น เป็นการ
ก่อให้เกิดชนวนความขัดแย้ง
ที่ร้าวลึกตอกย้ำลงไปในใจของ
ประชาชน 
       พระสงฆ์ ก็เป็นประชาชน
ภายใต้ราชอาณาจักรไทย การ
ละเลยให้ประชาชนที่เข้าสู่
กระบวนการยุติธรรมต้องโดดเดี่ยว
ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ทั้งๆที่ควรจะเป็น
หน้าที่ของภาครัฐ 
ที่จะต้องอำนวยความยุติธรรมอย่าง
เท่าเทียม ไม่ว่าประชาชนนั้น
จะมาในฐานะใดก็ตาม ในฐานะของ
ผู้ถูกกล่าวหา ฐานะผู้ต้องหา หรือ
ฐานะโจทก์ จำเลย ใดๆก็ตาม
เป็นหน้าที่ของบุคลากรในกระบวนการ
ยุติธรรมที่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถ
ช่วยเหลือประชาชนโดยไม่แบ่งฝักฝ่าย
เพือประโยชน์สูงสุดของประชาชนในการ
ที่จะได้รับความเป็นธรรม
      เมื่อ ดีเอสไอ เป็นบุคลากรที่อยู่ใน
กระบวนการยุติธรรม มีทั้งหน้าที่
และมีอำนาจในการอำนวยความยุติธรรม
แต่หากอำนาจและหน้าที่นั้นไม่อาจ
กระทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม
ได้แล้ว ก็คงจะต้องมองไปที่จิตสำนึก
จิตสำนึกในการเป็นบุคลากรทึ่กระทำ
หน้าที่อำนวยความยุติธรรมแม้จะมิได้กระทำ
ภายใต้พระปรมาภิไธย 
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่
วันนี้ ดีเอสไอ ได้ใช้จิตสำนึกนั้น
แล้วหรือยัง
คงไม่ต้องให้บอกนะ
ว่าท่านพลาดในเรื่องใด
เรียนผูกก็เรียนแก้เอาเอง

ศศินภา
นิติธรรมปพน
อดีตคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง
และมาตรการปกป้องพิทักษ์
กิจการพระพุทธศาสนา
สภาปฏิรูปแห่งชาติ
  ๒๖ พฤษภาคม. ๒๕๕๙

2 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยกับความคิดของท่าน ดูเหมือนพระสงฆ์ท่านถูกใส่ร้าย และถูกกระทำย่ำยีไม่มีความเคารพท่านเลยทั้งๆที่ปากบอกว่าทำตามขั้นตอน ทำดีที่สุด คุณไม่กลัวบาปกลัวกรรมเลยไม่แน่ใจว่าเป็นคนพุทธหรือไม่ถึงทำกันได้ขนาดนี้ คนมีอำนาจอยู่ในมือจะทำอะไรก็ได้ ประชาชนตาดำๆไม่มีสิทธิพูดอะไรที้งสิ้น แต่คุณไม่มีสิทธิจะหนีกฏแห่งกรรมอันเป็นผลแห่งการกระทำได้แน่นอน

    ตอบลบ
  2. เห็นด้วยกับท่านค่ะ เป็นใช้อำนาจแบบอยุติธรรม มาทำการทำร้ายและย่ำยีชาวพุทธ

    ตอบลบ