วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

นำเงินตราเข้าประเทศดีกว่าไหม...โป้ง รวย


เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ทำให้เป็นเรื่อง วัดนี้มีสาขาทั่วโลก นับร้อยสาขา มีสาขาในไทย ก็หลักร้อย มีคนเข้าวัดเป็นล้านคน 

แค่มีที่สำหรับให้คนมาปฏิบัติธรรม รับคนได้ทีละ พันสองพัน มันจะประหลาดตรงไหน   

การที่ประเทศไทยมีที่สำหรับปฏิบัติธรรมแบบนี้ ทางภาครัฐ ควรเล็งเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้น สำหรับคนในประเทศ เมื่อสนับสนุนให้เข้าหาพระธรรมจิต สงบ ความวุ่นวายก็ลดลง  

หรือแม้กระทั่งเป็นจุดที่จะชักชวน คนทั้งโลกให้มา ท่องเที่ยวปฏิบัติธรรมเมืองไทย เที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศาสนา ในย่าน เอเซียตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าเห็นประโยชน์ก็สนับสนุน เงินตราหลั่งไหลเข้าเมืองไทย  ไม่ได้ออกไปทางไหน   



แต่นี่ กลับจะหาเรื่อง เข่นฆ่า  ถนนสายโคราช มีแต่อาคารสำหรับพักผ่อน เพราะใกล้เขตภูเขา ทางวัดเล็งเห็นประโยชน์ภายหน้า จะหาที่วิเวก ปฏิบัติธรรม ก็ยากขึ้นทุกวัน  จะพาเดินธุดงค์ ในป่า ก็โดนว่าบุกป่า สงวน  เดินในเมือง ก็ว่ารถติด   

ที่มีปัญหา ไม่ใช่วัดแล้วละครับ  แต่วิธีที่รัฐคิดกับวัด จะเอามาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ หรือ เอาให้พังพาบกันไปด้วยกัน ก็เลือกเอา  คดีที่มาประเคนให้หลวงพ่อนั้น ดูเหมือนท่านไม่รับประเคน  ก็หาทางเอากลับไปจัดการเองก็แล้วกันนะ  ส่วนว่ารายละเอียดที่เค้าแก้ข่าวกัน สงสัยก็อ่านนี่แล้วกัน



ดังนั้น หากเห็นประโยชน์ของ องคาพยพของประเทศ แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทุกภาคส่วน อะไรๆ ที่แย่ๆ นั้น ก็จะกลับฟื้นคืนดีขึ้น

เคยอ่านนิทานสมัยก่อน ที่ท่านเปรียบเทียบไว้




มีอยู่วันหนึ่ง อวัยวะทั้ง 5 ของคนๆ หนึ่ง เกิดทะเลาะกันขึ้น 
พูดกันคนละทีสองที ทะเลาะกันอย่างดุเดือด 

เริ่มแรกทั้งหมดต่างรุมกันว่า... ตา 

"แกวันทั้งวันไม่เห็นทำอะไรเลย
แต่กลับมีโอกาสได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์อันงดงามทั้งหลาย ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ" 


จากนั้นก็หันมาโจมตี... หู 
"แกตลอดทั้งวันอยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว
แต่กลับสามารถได้ยินเสียงอันไพเราะต่างๆ ทำไมพวกฉันถึงไม่มีโอกาสอย่างนี้บ้าง"

เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายหันมารุมว่า.. ลิ้น 
"แกนะ นอกจากเวลานอนแล้ว ตลอดวันไม่ใช่กินก็คือดื่ม
ได้ลิ้มรสชาติอันโอชะประดามีในโลก แต่พวกฉัน
แม้เพียงสิ่งที่ธรรมดาสามัญที่สุดก็ไม่มีโอกาสได้กิน"
ที่รู้สึกได้รับความยุติธรรมที่สุดคือ... มือ 
มือคิดว่าตัวเองต้องทำงานทั้งวัน มีผลงานมากที่สุด แต่กลับไม่มีโอกาสเสพสุขอะไรเลย 

แต่ทว่า...ขา ไม่เห็นด้วยกับมือ

ขาบอกว่า 

"ถ้าพูดจริงๆ แล้ว คุณูปการของฉันมากที่สุด ถ้าฉันไม่พาเดินไปยังที่ต่างๆ ละก็
มือก็ไม่เห็นจะสามารถทำงานอะไรได้มากมาย" 

มือฟังคำพูดของขาแล้ว แม้ในใจจะรู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาพูดดี 

ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ในที่สุดอดรนทนไม่ไหวคว้ามีดขึ้นมา 1 เล่ม 
เริ่มด้วยการควักลูกนัยน์ตาออกมาก่อน อะไรๆ ก็มองไม่เห็นแล้ว สมแค้นไปอย่าง 

จากนั้นก็เฉือนใบหูลงมา อะไรๆ ก็ไม่ได้ยินแล้ว 

พอเสร็จแล้วก็เฉือนลิ้นออกมาด้วย พูดไม่ได้แล้ว 

ท้ายสุดก็ตัดขาทิ้งไปด้วยแล้ว เดินก็ไม่ได้แล้ว 

ผลสุดท้าย เนื่องจากบาดแผลสาหัสเกินไป คนๆ นั้นจึงถึงแก่ความตาย 
แน่นอน มือ ก็ย่อมไม่มีสามารถมีชีวิตอยู่ไดโดยลำพัง 

อย่าเอาอย่างนิทานกาลก่อน ที่ หัวหู ปากจมูก แขนขา ทะเลาะกันเอง วุ่นวาย 

อะไรไม่ใช่หน้าที่ ก็จะทำ อะไรเป็นหน้าที่ ก็ไม่ทำ   ผิดฝา ผิดตัว อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้   ที่สุดก็อยู่ไม่รอดทั้งหมด  ทั้งวัด ทั้งบ้าน ทั้งเมือง  ล่มสลายไปพร้อมกัน 

ถ้าปัญญาในการแก้ปัญหามันไม่พอ ก็ขยับให้คนอื่นเข้ามาทำแทนเถอะ ท่านเอ้ย 

เอางั้นเนอะ   





4 ความคิดเห็น:

  1. ประเทศจะชิบหายไม่ว่า ขอให้ "ข้า" ได้สะใจ.."กีฬาสี" ก็เล่นซะประเทศแตกเป็นสองท่อน ยังไม่ "หนำใจ" ก็ดูกันไป.."ใคร" จะทนกว่ากัน

    ตอบลบ
  2. เอางั้นเลยค่ะ ชัดเจนมากๆ

    ตอบลบ
  3. ชัดเจนดี อ่านแล้วเห็นภาพ แล้วคนไทยจะเอายังไงดี. เรื่องมีหน้าที่แต่ไม่ทำ. ไปทำเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ มันเป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ คนพวกนี้เมื่อไหร่จะคืนความสุขให้กับประชาชนจริงๆซะที หรือเมาในอำนาจวาสนาจนไม่อยากคืนไปแล้ว

    ตอบลบ